RSS

เรื่องเล่าของตำรวจบ้านนอก….พาแลง

16 ก.พ.
"พา" คำเรียก สำรับอาหาร ของชาวภูไท (ขอบคุณภาพจาก internet)

“พา” คำเรียก สำรับอาหาร ของชาวภูไท (ขอบคุณภาพจาก internet)

มาทำงานที่น้ำอูนนี่ ได้มีโอกาสได้พาแลงหลายครั้ง  งาน”พาแลง” หรือจะให้เรียกอย่างหรูๆแบบคนกรุง ก็งานกาลาดินเนอร์ มั้ง บางทีก็เหมือนงานการกุศล หรือ แชร์ริตี้ อะไรทำนองนีั้น เขาเล่าว่า แต่อ้อนแต่ออกน่ะ เป็นงานรวมตัวกินข้าวเย็นในหมู่ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหายในชุมชนหรือสังคมนั้น ใครมีอาหารอะไร ก็นำใส่ภาชนะมาร่วมแบ่งปันอาหารกันทาน ไม่ได้มีใครเป็นเจ้าภาพออกค่าอาหารให้ใคร รวมกันหลายครอบครัว ก็มีอาหารหลากหลายชนิด แบ่งปันกันทานเหลือเฟือ บางทีก็มีการละเล่นหรือดนตรีพื้นเมืองสนุกสนานด้วย

กิจกรรมพาแลง ก็เหมือนกับที่คนเมืองหลวงหรือคนภาคกลางเมื่อก่อนนี้ จะไปกินข้าวกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง ใครทำอะไรก็ยกกันไปกินที่บ้านเพื่อน หรือไม่ก็บ้านเรา หมุนเวียนกันไปมา ส่วนใหญ่จะเป็นลานหน้าบ้าน หรือชานเรือน ผู้เขียนคุ้นเคยมากในสมัยเด็ก…. สมัยนั้น แม่ผู้เขียนทำอาหารหรือขนมอะไร ก็จะทำหม้อใหญ่หน่อย ตักแบ่งให้กับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงบ้านละถ้วย อย่างน้อยสองหรือสามบ้าน ตามแต่แม่จะตักให้ ผู้เขียนก็ได้มีบ้างที่ทำหน้าที่เป็นคนถือไปส่ง รับถ้วยเก่าของเราที่ใส่อาหารไปในครั้งก่อนกลับมาพร้อมกับมีอาหารหรือขนมติดมากับถ้วยหรือชามนั้นมาด้วย….และก็มีบางวันที่บ้านสองหรือสามครอบครัวนี้จะได้มานั่งทานข้าวร่วมกันที่บ้านครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง…..

ที่นี่ก็เหมือนกัน กิจกรรมพาแลง ไม่ได้เป็นเพียงจัดงานอาหารต้อนรับใครหรือคณะใดเท่านั้น แต่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ การมานั่งทานข้าวกันเป็นครอบครัวหรือในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง โดยต่างคนต่างทำอาหารมาร่วมกับเจ้าภาพสถานที่ เป็นเรื่องปกติ บางทีไม่ได้กินข้าวอย่างเดียว ยังเพิ่มความสนุกสนานด้วยการร้องเพลงคาราโอเกะกันตามแต่อัตภาพตามแต่สะดวก ใครไม่มีเครื่องเสียงดีดี ก็มีเครื่องเสียงเคลื่อนที่ให้เช่า มีคนมาคุมเครื่องให้เสร็จ จ้างเหมากันเป็นครั้งคราวไป ตั้งแต่สามร้อย ห้าร้อย หรือเป็นพัน ตามแต่จะต้องการ …

ได้สอบถามตำรวจที่นั่นถึงความหมายของคำ พอได้ความว่า คำว่า “พา” นั้น หมายถึง สำรับอาหาร ตัวภาชนะอาจจะทำด้วยหวายหรือไม้ไผ่สานไปวงมีขอบทั้งด้านบนและด้านล่าง หรือรูปแบบอื่นๆก็ได้  ใช้สำหรับวางอาหารหลายชนิดลง (คล้ายกับโตก ทางภาคเหนือกระมัง?) แต่น่าจะรวมถึงอาหารที่อยู่ในภาชนะนี้ด้วย คงไม่ได้หมายถึงภาชนะอย่างเดียว คือต้องมีอาหารด้วย จึงจะเรียกว่า “พา” ส่วนคำว่า “แลง” นั้น หมายถึงเวลาเย็น “พาแลง” ก็คือ สำรับอาหารสำหรับมื้อเย็น บางทีก็เรียกว่า “พาข้าวแลง” แม้ปัจจุบันจะเปลี่ยนภาชนะมาเป็นถุงพลาสติก ก็ยังคงจะเรียกว่า “พา”ได้อยู่กระมัง..

ประเพณี “พาแลง” หรือ “พาข้าวแลง”นี้ ถามผู้รู้บอกว่า เป็นประเพณีของชาวภูไท จัดขึ้นเพื่อรับขวัญญาติพี่น้องที่มาจากต่างถิ่น หรือแม้แแต่เป็นคนในชุมชนหรือสังคมเดียวกัน หรือ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มักจะมีพิธีการสู่ขวัญ หรือรับขวัญ และการแสดงพื้นเมืองเพื่อความสนุกสนานด้วย

ท่านนายอำเภอริคมน้ำอูน นายประทิม  โกษาแสง และศรีภรรยา ในงานพาแลงของอำเภอ

ท่านนายอำเภอริคมน้ำอูน นายประทิม โกษาแสง และศรีภรรยา ในงานพาแลงของอำเภอ

มีอยู่วันหนึ่งที่ทางอำเภอนิคมน้ำอูน โดยท่านนายอำเภอผู้อารี ได้จัดงานพาแลงสืบสานวัฒนธรรมขึ้น โดยใช้พื้นที่ในที่ทำการนั่นล่ะ เป็นงานกลางแจ้ง ตอนกลางวันก่อนพาแลงนั้น ท่านจัดงานบุญปะทายข้าวเปลือก เพื่อหาทุนให้กับงานสาธารณกุศลหลายกิจกรรม

….ในต่างจังหวัดแถบอีสานนี่ เวลาเขาจะลงขันกันช่วยงานบุญหรือช่วยใคร เขาก็ร่วมกันบริจาคเป็นข้าวเปลือกล่ะครับ เพราะทุกบ้านทำนาหมด เงินไม่มีแต่มีข้าวเปลือกในยุ้งฉาง เขาก็เอามาช่วยกันคนละนิดละหน่อย รวมกันทั้งหมู่บ้าน ทั้งอำเภอก็ได้เยอะอยู่นะ แล้วก็นำไปขายเอาเงินมาทำบุญหรือมาช่วยตามแต่อยากจะช่วย การทำอย่างนี้ล่ะ ที่เรียกว่า ปะทายข้าวเปลือก…..

พวกเเราเหล่าตำรวจไทยก็ได้รับเชิญด้วย หัวหน้าโรงพัก พ.ต.อ.กิจจา ฯ เป็นผู้นำ พวกเราทั้งนายตำรวจสัญญาบัตรและประทวนจำนวนหนึ่งไปช่วยงาน วันนั้นตำรวจเขาเอาลูกมะพร้าวอ่อนมาลูกหนึ่ง ฝานเปลือกนอกด้านบนออก เหลาไม้ไผ่คล้ายไม้เสียบปลาหมึก เอาไว้คีบธนบัตรแล้วปักลงบนลูกมะพร้าวอ่อน เป็นการเชิญชวนให้ร่วมกันทำบุญบริจาคไปช่วยงานปะทายของนายอำเภอ  พวกเราไม่มีเป็นข้าวเปลือกก็ทำเป็นเงินแทน ทำกันคนละ ยี่สิบบ้าง ห้าสิบบ้าง ร้อยบ้าง แล้วแต่กำลัง ตกเย็นก็นำไปช่วยงาน พวกเราเข้าไปร่วมอยู่ด้วยได้ไม่นานก็ขอตัวกลับ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อรักษาภาพลักษณ์เอาไว้บ้าง เนื่องด้วยคนที่นี่ ไม่ว่าชาวบ้านหรือตำรวจ หากได้มีงานฉลองหรืองานเลี้ยงแล้วล่ะก็ เขากินกันจริงๆจังๆครับ ทั้งอาหารและเครื่องดองของเมา  ไม่ใช่พอเป็นมารยาท หรือต้องรีบร้อน

ผู้กำกับการนำข้าวเปลือกไปร่วมสมทบทุนงานบุญปะทายข้าวเปลือกของอำเภอนิคมน้ำอูน

ผู้กำกับการนำข้าวเปลือกไปร่วมสมทบทุนงานบุญปะทายข้าวเปลือกของอำเภอนิคมน้ำอูน

กลับบ้านเหมือนในกรุง เวลาที่น้ำอูนนี่มีเหลือเฟือครับ… ดังนั้นเวลาเมาก็จะเมาหนัก ตำรวจก็เหมือนกันครับ เลยต้องเพลย์เซฟ ถอนตัวกลับมาเสียแต่เนิ่นเนิ่น อยู่นานจะกลายเป็นเจ้าของงานไป  ฮ่า ฮ่า..อิอิ

ที่โรงพักเราเอง ก็พาแลงกันเสมอๆ มาอยู่ได้ประมาณ ๖ เดือน มีพาแลงในหมู่ตำรวจเรากันเอง สามหรือสี่ครั้งแล้ว ก็ประมาณ เดือนสองเดือนครั้ง ทราบว่า ก่อนหน้าที่ผู้เขียนจะมานั้น หัวหน้าโรงพักก็จัดพาแลงในลักษณะนี้อยู่เสมอมา นับเป็นกุศโลบาย ที่ก่อให้เกิดความสนิทสนมคุ้นเคย ความสมัครสมานสามัคคี…. อย่างที่พระท่านบอกว่า ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง นั่นล่ะครับ คุ้นเคยกันซะแล้ว จะไหว้วาน จะใช้ จะขอความช่วยเหลือ จะเข้าพบ มันง่ายไปหมด…

มีครั้งหนึ่ง เป็นพาแลงบาบีคิว วันนั้นเป็นวันโยธาประจำสัปดาห์ พวกเราทุกคนมาช่วยกันทำโยธา พัฒนาบริเวณรอบโรงพัก พองานเสร็จแล้วก็ชวนกันมาพาแลงที่ข้างบ้านผู้กำกับการนั่นล่ะ สารวัตรสืบสวน พ.ต.ท.เอกวัฒน์ รักโคตร เป็นนายตำรจรุ่นน้อง นี่ก็โดนย้ายมาจากบ้านไผ่ ขอนแก่น เป็นคนเอาการเอางานมาก แกไปซื้อ หัววัว ไว้เตรียมทำบาบีคิว ผู้เขียนได้แต่รอดูว่า จะใช้หัววัวมาทำอะไรทานอย่างไร

ช่างพันแสงกำลังเลาะหัว้วัว ผู้กำกับการต้องคอยกำกับการตามหน้าที่

ช่างพันแสงกำลังเลาะหัว้วัว  ผู้กำกับการต้องคอยกำกับการตามหน้าที่

ช่างพันแสง นายช่างประจำโรงพักรับบทเป็นพ่อครัวหัวป่าส์ คนนี้แกถนัดนัก เรื่องชำแหละ หมู หมา กาไก่ วัว ควาย แกชำแหละได้หมด ดาบยูชิต ดาบประภาส ไปเอาปลามาจากบ่อหน้าโรงพัก ดาบกุศล ไปเอารังมดแดง ดาบจ่อยเอาหมูมา หมวดชัยฤทธิ์มาก่อไฟเตรียมย่างเนื้อ อาทิตย์ไปดูเรื่องข้าวเหนียว ป้าเจ็กเมียหมวดโย ทอดปลา เมียดาบประภาสทำแจ่ว หมวดโจ้ ดูเรื่องนำแข็งน้ำดื่ม ดาบธวัชดูเรื่องจานช้อนแก้ว ดาบอุ้ย ดาบวีระชาติ ดาบวินัย ตั้ม สุรชัย สาคร ไผ่ ต้อง ดูแลเรื่องโต๊ะเก้าอี้ ดาบสถิตย์ ไปดูเตรื่องเครื่องเสียง ดาบเจริญชัย เก็บภาพ ผู้กำกับจ่ายเงิน…ฮา  พวกเราแบ่งงานกันช่วยกันนู่นทำนี่ เสียงคุยเสียงหยอกล้อเสียงแซวกัน เสียงหัวเราะโห่ห่าเป็นที่ครื้นเครง

หัววัวที่ได้มานั้น ช่างพันแสงแกดำเนินการชำแหละตัดแคะล้วง อะไรที่กินได้ออกมาหมด ไม่นานหัววัวก็เหลือแต่กะโหลก ฟันและเขาที่แข็งเกินไปกว่าจะเคี้ยวได้ บางส่วนก็เอามาย่าง เช่นเนื้อช่วงที่ต่อกับคอ ลิ้น แก้ม อะไรอย่างนี้ ส่วนอื่นก็เอาไปต้ม รวมทั้งสมองด้วยมั้ง…แต่อันนี้ไม่เห็นด้วยตาเอง ไม่กล้ายืนยัน…. ส่วนปลานั้น บางส่วนก็ย่าง ทอด บางส่วนก็ทำก้อยปลาใส่มดแดง แล้วนำมาห่อใบตองย่างให้สุก ทานกับผักนานาชนิด ตามด้วยเม็ดพริกสักหนึ่ง อร่อยจนลืมกลับวัดได้เหมือนกัน…อิอิ

เริ่มรวมตัว ช่วยกันทำช่วยกันกิน

เริ่มรวมตัว ช่วยกันทำช่วยกันกิน

นอกนั้นก็มีคอหมูย่าง ไก่ย่าง แล้วก็ขาดเสียไม่ได้คือ ไข่เจียวกระเทียมดอง….อิอิงงงจริ๊ง แล้วก็ยังมี ต้มปลา แจ่วพริก แล้วก็อาหารสิงโตของกลุ่มผู้นิยมเนื้อสด อันนี้มีหมวดชัยฤทธิ์ฯ หมวดเขียว เป็นหัวหอกในการปรุงและกิน….พอเริ่มบ่ายแก่ๆ พวกเราก็เริ่มมารวมตัว ช่วยกันจัดนู่นทำนี่ เดี๋ยวก็จะได้เวลากินข้าวด้วยกันล่ะ..

คนชนบทนั้นรักความสุขสนุกสนาน ทั้งที่ทำงานหนัก หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน บางครั้งก็แห้งแล้ง อดอยาก แต่ในชีวิตประจำวันนั้นไม่เศร้่าซึม ไม่หมดอาลัยตายอยากไม่ยอมแพ้ และมีสิ่งสอดแทรกที่ทำให้บันเทิงเริงใจอยู่ได้เสมอ ในงานลักษณะนี้ก็เช่นกัน มักจะมีการแสดงหรือการละเล่นใดที่สนุกสนานไปด้วย ชนิดของการละเล่นการแสดงก็คงจะแตกต่างกันไปแต่ละยุดแต่ละสมัย เมื่อก่อนอาจจะมีการร้องหมอรำ หรือรำเพลิน ยุดเปลี่ยนมาก็เป็นลำซิ่ง ดิ้นกันฝุ่นกระจาย มาตอนนี้คนที่เคยเป็นวัยรุ่นเต้นฝุ่นกระจายนั้น ได้กลายมาเป็นผู้ใหญ่อยู่ในถิ่น ก็เปลี่ยนจากดิ้น มาเป็นร้องคาราโอเกะ แล้วคาราโอเกะก็เป็นที่นิยมในแถบนี้นัก วันสองวันครั้ง เป็นต้องได้ยินเสียงเพลงคาราโอเกะลอยมาตามลมเป็นการกล่อมให้นอนไปด้วย บางครั้งเพลงก็เพราะ เพราะคนร้องดี แต่บางคนร้องนอกจากเสียงไม่ได้แล้ว จังหวะจะโคนยังคร่อมไปคร่อมมาซะอีก ฟังแล้วให้อึดอัดแทนจนหลับไปก็เคยมี

 
2 ความเห็น

Posted by บน กุมภาพันธ์ 16, 2013 นิ้ว สังคมและการเมือง, Uncategorized

 

ป้ายกำกับ: , ,

2 responses to “เรื่องเล่าของตำรวจบ้านนอก….พาแลง

  1. ดต.ศิลปชัย สว่สงโรจน์ นายก อบต.คลองขนาก

    มีนาคม 19, 2013 at 10:39 pm

    ท่านกับท่าน ผกก กิจจา คงจะลืมหัวหมาก พญาไท บางรัก แล้วแน่เลย555555ล้อเล่งนะครับอ่านแล้วผมอยากกลับไปเป็นตำรวจใหม่เลย

     
    • sertsak

      มีนาคม 28, 2013 at 11:21 pm

      ขอบคุณพี่ดาบ ที่เข้ามาอ่านนะครับ…
      ทำไมลาออกซะละครับ..ไปเล่นการเมืองหรือ….ดีจะได้ช่วยตำรวจได้ “ช่วย” นะ ไม่ใช่ “ใช้” …

      ยังไม่ลืมหรอกครับ… ใครจะลืมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ…อิอิ

       

ใส่ความเห็น

 
Kaebmoo's Blog

Blog ไม่ใช่ของกู

voaw

A great WordPress.com site

Sermsak

No noodles, the family.

Live, Nerd, Repeat

Making life better through the perfect application of humor and nerdery

You read me, but you can change me not.

Mentally unhealthy kinda characteristic.

The Kid Travels

Ed Gregory (The Kid) goes travelling

Bagni di Lucca and Beyond

Brisbane, Bagni di Lucca and everything in between

TED Blog

The TED Blog shares news about TED Talks and TED Conferences.

NewsFeed

Breaking news and updates from Time.com. News pictures, video, Twitter trends.

Post it Notes from my Idiot Boss

delivered directly to my computer monitor on an all too regular basis...

The Life and Times of Nathan Badley...

just like Moby Dick, but shorter and less whale-oriented.

Search Blogs

Just another WordPress.com weblog

WordPress.com News

The latest news on WordPress.com and the WordPress community.